สาวๆ หลายคนคงเคยได้ยินมาบ้างว่าในเมืองไทยมีร้านอาหารที่เน้นขายเมนูตามกรุ๊ปเลือด และนับวันกระแสการกินแนวนี้ก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น จนร้านอาหารเพื่อสุขภาพส่วนใหญ่หันมาเพิ่มเมนูกินตามกรุ๊ปเลือดกันมากขึ้น

แต่คุณยังไม่ต้องเชื่อในสิ่งที่ยังไม่ทราบข้อมูลอย่างละเอียดก็ได้ โดยเฉพาะกระแสใหม่ๆ ที่ถาโถมเข้ามาในเมืองไทย ยิ่งเรื่องอาหารการกินที่สำคัญที่สุด แต่จะมีสักกี่กระแสที่นำมาใช้ได้จริงและได้ประโยชน์สูงสุดต่อชีวิตคุณ

เรามาลองดูกันว่าต้นกำเนิดของกระแสการกินตามกรุ๊ปเลือดนี้มาจากที่ใด และจะช่วยให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้อย่างไรบ้าง

เทรนด์การกินตามกรุ๊ปเลือดถือกำเนิดมาจาก นายแพทย์ปีเตอร์ เจ ดาอาร์ดาโม (Dr.Peter J. Dadamo) ซึ่งคุณหมอได้ใช้เวลาศึกษาค้นคว้าเรื่องนี้มานานกว่า 30 ปี จนได้รับรางวัลแพทย์ธรรมชาติบำบัดยอดเยี่ยมจากสหรัฐอเมริกาปี 1990 และได้เขียนหนังสือ “Eat Right for Your Type” ขึ้น

คุณหมอแนะนำว่าเราควรกินเพื่อให้สอดคล้องกับแต่ละคน โดยอาศัยกรุ๊ปเลือดที่ต่างกันเป็นสำคัญ เพราะเลือดแต่ละกรุ๊ปมีสารเคมีเลือดที่ไม่เหมือนกัน และอาหารที่เรากินทุกชนิดมีโปรตีนซึ่งถือเป็นอนุมูลอิสระ ซึ่งมีคุณสมบัติเหนียวและยึดเกาะเลือด หรือที่เราคุ้นเคยกันดีว่าเลกติน (Lectin) การกินอาหารที่เหมาะกับเลือดของเราจะทำให้เลกตินเกาะเลือดในปริมาณเหมาะสมไม่มากเกินไป ทำให้เลือดข้นกำลังดี ไตก็ไม่ทำงานหนักมาก นอกจากนี้ไม่ควรปล่อยให้มีเลกติกมากเกินไป เพราะมันจะเข้าไปก่อกวนระบบย่อยอาหาร การสร้างอินซูลินและทำให้เกิดเสียสมดุลของฮอร์โมนด้วย

ขอกระซิบอีกนิดว่าการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดนอกจากจะทำให้มีสุขภาพดี เพราะเกิดการสมดุลของระบบต่างๆ ในร่างกาย ทุกส่วนประสานการทำงานได้อย่างเป็นระบบ ทำให้ผิวพรรณคุณผ่องใสขึ้นแล้ว สาวๆ ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักรักษาหุ่นทั้งหลายต้องสนใจ เพราะจากการศึกษาทดลองกว่า 3 ปี ได้ผลสรุปทีแน่ชัดว่าผู้ที่กินตามกรุ๊ปเลือดอย่างต่อเนื่องสามารถลดน้ำหนักได้จริง ในขณะที่สุขภาพไม่เสียและยังไม่กลับมาอ้วนอีกด้วย

ส่วนในด้านจิตใจนั้นพบว่าไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ผู้ที่รับการทดลองส่วนใหญ่ล้วนมีสุขภาพจิตที่ดี อารมณ์แจ่มใสรื่นเริง ไม่รู้สึกว่าการกินอาหารตามกรุ๊ปเลือดจะเป็นเรื่องยุ่งยากแต่อย่างใด เพียงแค่หักห้ามให้ได้ในระยะสัก 1-2 เดือน ต่อจากนั้นร่างกายและจิตใจจะรู้สึกทำได้เองตามธรรมชาติ ไม่รู้สึกอยากกินของไม่ค่อยมีประโยชน์ ขณะที่น้ำหนักตัวลดลงอย่างค่อยเป็นค่อยไปทำให้สบายตัว รวมทั้งโรคปวดข้อซึ่งมาจากความอ้วนก็หมดไป

การกินตามกรุ๊ปเลือดนี้ยังไม่เน้นให้คุณเลือกกินอาหารตามร้านที่ระบุว่ามีเมนูตามกระแสนี้เท่านั้น เพราะในชีวิตจริงนอกจากจะเป็นเรื่องยุ่งวุ่นวายแล้ว ยังทำให้สิ้นเปลืองมากขึ้น การทำอาหารตามกรุ๊ปเลือดกินเองหรือรู้จักเลือกซื้ออาหารทั่วๆ ไป เพียงแค่ปรับให้เข้าเกณฑ์เท่านั้น คุณก็สามารถมีชีวิตใหม่ที่สดใสกว่าได้แล้ว

ทีนี้ก็ถึงเวลาที่คุณควรกินอาหารให้เหมาะกับกรุ๊ปเลือดกันแล้ว

วันจันทร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2555

คนเลือดกรุ๊ป B


ต้องไดเอท!
คนเลือดกรุ๊ป B ส่วนมากมักจะมีรูปร่างเจ้าเนื้อจนถึงอ้วนฉุ ไม่ว่าคุณจะกินเพียงน้อยนิดหรือกินเท่าคนทั่วๆ ไป คุณก็ยังประสบกับปัญหาห่วงยางส่วนตัวที่พอกพูกขึ้นทุกวัน
                ไม่เพียงคุณจะมีรูปร่างเกินตัวชวนให้หงุดหงิดใจแล้ว คุณยังแพ้ง่าย ไม่ว่าดอกไม้หอม อาหารหรือแม้แต่ภูมิแพ้ตนเองด้วยซ้ำ พวกเชื้อไวรัสก็ทำให้คุณเสียสุขภาพอยู่เป็นประจำ โดยเฉพาะโรคหวัดกับคุณเรียกว่าเป็นของคู่กันทีเดียว
                บ่อยครั้งคุณอาจคิดว่าตัวเองเป็นโรคเกาต์ตั้งแต่ยังวัยรุ่นเพราะมีอาการปวดบวมตามข้อต่ออยู่เป็นประจำ ทั้งๆ ที่ความจริงเกี่ยวกับระบบประสาทที่ไม่ดีนักต่างหาก
                อาหารการกินที่เหมาะสม
                โปรตีนจากสัตว์และโปรตีนจากพืช
                โปรตีนที่คุณควรสนใจ ก็คือโปรตีนไขมันต่ำคอเลสเตอรอลน้อย เช่น เนื้อไก่ไร้หนัง ปลาทะเล อาหารทะเล ควรกินแต่น้อย เพราะมีคอเรสเตอรอลสูงมากๆ ทั้งปู กุ้ง หอยต่างๆ ไม่ควรกินเกินสัปดาห์ละ  1 ครั้ง
                ส่วนเนย นม ไข่ คุณสามารถกินได้บ้าง สัปดาห์ละ 2 ครั้ง และควรจำกัดปริมาณให้เหมาะสม ถ้าคุณชอบโปรตีนจากพืชยิ่งเหมาะมาก ผลิตภัณฑ์จากถั่วต่างๆ ที่มีไขมันน้อย สามารถกินได้ทุกมื้อ
                คาร์โบไฮเดรต
                ถั่ว งา แป้งสาลี เมล็ดธัญพืชต่างๆ ไม่ดีต่อคนเลือดกรุ๊ป B อาหารพวกนี้จะยิ่งสร้างไขมัน และไม่ดีต่อระบบเลือดชองคุณ คุณควรได้คาร์โบไฮเดรตจากข้าวเจ้า หรือน้ำตาลฟรุกโตสจากผลไม้ที่นำไปใช้ได้ทันทีจะดีกว่า
                ผักผลไม้ต่างๆ
                ผักผลไม้ที่มีกากใยหรือไฟเบอร์สูวๆ และมีน้ำตาลรวมทั้งไขมันต่ำเหมาะกับคุณทั้งนั้น โดยเฉพาะผักใบเขียวเข้มจะมีแมกนีเซียมสูงมาก ซึ่งจะช่วยลดอาการแพ้ เช่น ผื่นคันต่างๆ ได้ดี และอาหารที่จัดอยู่ในประเภทสมุนไพรต่างๆ ก็เหมาะมาก
                เมนูอาหารของคนกรุ๊ป B ใน 1 สัปดาห์
                วันที่ 1
                มื้อเช้า : ข้าวต้มใสๆ กินกับข้าวต้ม สัก 2-3 อย่าง เช่น ผัดผักบุ้ง ไข่เค็ม ½ ฟอง และผักกาดดองเค็มยำ
                ของว่าง : ส้ม 2 ผล
                มื้อกลางวัน :        ผัดผักรวมมิตรใส่ไก่
                                                ข้าวสวยร้อนๆ 1-2 ทัพพี
                ของว่าง : มะละกอ 1 เสี้ยว
                                น้ำส้มคั้น 1 แก้ว (ไม่ใส่น้ำตาล)
                มื้อเย็น : แกงเลียงกุ้งสด 1 ถ้วยเล็ก
                                ข้าวกล้องร้อนๆ 1-2 ทัพพี
               
                วันที่ 2
                มื้อเช้า : ขนมปังปิ้งทาแยมหรือเนยบางๆ 2 แผ่น และนมสด 1 แก้ว
                ของว่าง : แตงโม 1-2 เสี้ยว
                มื้อกลางวัน : เกาเหลาลูกชิ้นปลา 1 ถ้วย
                ของว่าง : แอปเปิ้ล 1 ผล
                มื้อเย็น : น้ำพริกหนุ่ม 1 ถ้วยเล็ก กินเคียงกับผักสดๆ และข้าวสวยร้อนๆ 1-2 ทัพพี
               
                วันที่ 3
                มื้อเช้า : ปลานึ่งซีอิ้ว 1 ตัว (ขนาดเล็ก) กินกับข้าวสวยร้อนๆ 2 ทัพพี
                ของว่าง  : นมพร่องมันเนย 1 แก้ว
                มื้อกลางวัน :        ส้มตำ 1 จาน
                                                ไก่ย่างเลาะหนังออก 1 น่อง
                ของว่าง : น้ำผักผลไม้ปั่น 1 แก้ว
                                กล้วย ½ ผล
                มื้อเย็น : ซุปมะเขือเทศแบบไม่ใส่น้ำมัน 1 ถ้วยร้อนๆ

                วันที่ 4
                มื้อเช้า : ตับไก่ย่าง 2 ไม้ กินกับข้าวเหนียว 1 ปั้นเล็กๆ
                ของว่าง : น้ำมะนาวปั่น 1 แก้ว
                มื้อกลางวัน : ยำไส้กรอก 1 จาน กินกับข้าวสวย 1-2 ทัพพี
                ของว่าง : แครอตหั่นเป็นท่อนยาวๆ กินสดๆ สัก 1 หัว เล็ก
                มื้อเย็น : สลัดแขก 1 จาน
               
                วันที่ 5
                มื้อเช้า : ซุปมันฝรั่ง 1 ถ้วย และน้ำ
                ของว่าง : นมสดพร่องมันเนย 1 แก้ว
                มื้อกลางวัน : กะเพราไก่ราวข้าวสวยร้อนๆ 1 จาน
                ของว่าง : น้ำอ้อย 1 แก้ว
                มื้อเย็น : ผัดผักบุ้งใส่กุ้ง 1 จานเล็ก กินกับข้าวกล้อง 1-2 ทัพพี

                วันที่ 6
                มื้อเช้า : สลัดไก่ 1 จาน และนมสด 1 แก้ว
                ของว่าง : น้ำแครอตปั่น 1 แก้ว
                มื้อกลางวัน : ข้าวผัดพริกแกงหมูเนื้อ 1 จาน
                ของว่าง : น้ำสับปะรดปั่น 1 แก้ว
                มื้อเย็น : ยำเห็ดหูหนูขาว 1 จาน ข้าวสวยร้อนๆ 2 ทัพพี
               
                วันที่ 7
                มื้อเช้า : ซุปแครอต 1 ถ้วย และนมถั่วเหลือง 1 แก้ว
                ของว่าง : น้ำกล้วยปั่น 1 แก้ว
                มื้อกลางวัน : ยำผักกระเฉด 1 จาน ข้าวสวยร้อนๆ 1-2 ทัพพี
                ของว่าง : โยเกิร์ตพร้องมันเนย 1 ถ้วย
                มื้อเย็น : น้ำพริกปลาทู 1 ถ้วยเล็ก ปลาทู ½ ตัว กินกับผักเคียงต่างๆ และข้าวกล้องร้อนๆ 1 ทัพพี

                เมนูอร่อยสำหรับคนเลือดกรุ๊ป B
                สลัดผลไม้เย็นฉ่ำ
                เครื่องปรุง
1.             เนื้อไก่อบเลาะหนังออกแล้ว                                     1              ขีด
2.             ไข้ต้ม                                                                             1              ฟอง
3.             โยเกิร์ตพร่องมันเนย                                                  1              ถ้วย
4.             น้ำส้มสายชู                                                                  1-2          ช้อนโต๊ะ
5.             แอปเปิ้ล                                                                         1/2          ผล
6.             สับปะรด                                                                       1              เสี้ยวเล็ก
7.             ส้มโอ                                                                             3              กลีบ
8.             ฝรั่ง                                                                                 1/2          กลีบ
9.             องุ่นเขียว                                                                       5              ผล
10.      ลูกแพร์                                                                          1/2          ผล
11.      สตรอเบอร์รี่                                                                  3-4          ผล
12.      แคนตาลูป                                                                     1              เสี้ยวเล็ก
13.      เกลือป่นเล็กน้อย
                วิธีปรุง  
·       นำไก่อบที่เลาะหนังแล้วมาสไลซ์เป็นชิ้นบางๆ ส่วนไข่ต้มก็เช่นเดียวกัน
·       ผลไม้ต่างๆ นำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แบบสี่เหลี่ยมลูกเต่า ยกเว้นส้มโอบิให้แตกออกเล็กน้อย และองุ่นเขียวนำเมล็ดออกและผ่าครึ่ง
·       ทำน้ำสลัดไขมันต่ำโดยนำโยเกิร์ตใส่อ่างผสม เพิ่มความเปรี้ยวอีกนิดด้วยน้ำส้มสายชู และโรยเกลือป่นอีกเล็กน้อย
·       ก่อนเสิร์ฟนำผลไม้ที่หั่นไว้พร้อมไก่อบกับไข่ต้มแช่เย็นไว้ก่อน เพื่อจะกินกับน้ำสลัดที่เตรียมไว้ราดและคลุกเคล้าให้ทั่ว ความเย็นจะช่วยให้ผลไม้ชุ่มฉ่ำและรู้สึกสดชื่นทันที

เมี่ยงเนื้อ
เครื่องปรุง
เนื้อวัว                                    1              กก.
หัวหอมเล็ก                           10-15     หัว
ถั่วลิสงทอด                           2              ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวขูดแล้ว                   1/2          กก.
ขิงอ่อน                                  1              แว่น
                ผักกาดหอม ใบขึ้นฉ่าย พริกขี้หนูสด เกลือ ส้มเขียวหวาน พริกแดง น้ำตาลทราย ถั่วลิสงคั่ว
                วิธีทำ
·       เนื้อหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ลงเคี่ยวในกระทะให้พอเปื่อยและเคี่ยวจนแห้งใส่เกลือเล็กน้อย เสร็จแล้วตัดใส่จานพักไว้
·       หั่นขิง หัวหอม เป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆ เหมือนเมี่ยงคำใส่จานพร้อมกับถั่วทอด อีกจานหนึ่ง เพื่อรับประทานกับเนื้อที่เคี่ยวแล้ว
วิธีทำน้ำส้มราดเมี่ยง
·       คั้นส้มเขียวหวาน (เลือกส้มที่มีรสเปรี้ยวจัด) เอาแต่น้ำ
·       โขลกพริกแดงให้ละเอียดกับเกลือป่นเล็กน้อยแล้วใส่น้ำตาลถั่วลิสงตัดปรุงรสตามชอบ
·       เวลารับประทาน เอาน้ำส้มราดบนเนื้อที่เคี่ยวแล้วรับประทานพร้อมกับเครื่องเมี่ยง โดยใช้ใบผักกาดหอมห่อเป็นคำหรือหยิบรับประทานตามชอบ
ถ้าไม่มีส้มเขียวหวาน จะใช้น้ำมะหนาวหรือน้ำส้มก็ได้

                สลัดปลา
                เครื่องปรุง
                ปลาอินทรีหรือกะพงขาว                                   1                              ตัว
                หอมฝรั่ง                                                                2                              หัว
                น้ำตาลทราย                                                          1                              ช้อนโต๊ะ
                ไข่ไก่ (เอาเฉพาะไข่แดง)                                  2                              ฟอง
                วิธีทำ
                เอาปลาต้มกับหอมฝรั่ง (ผ่า4) และใบกระวานด้วย เมื่อปลาสุกแล้วแกะเอาแต่เนื้อๆ ออก ไม่ให้มีหนังติดมาด้วย ฉีกออกเป็นชิ้นเล็กๆ พริกไทยป่น ไข่แดง คลุกเคล้าให้เข้ากันกับเนื้อ ระวังอย่าให้เนื้อปลาแหลกมาก พอทั่วแล้วเติมน้ำตาลทรายเพียงหยิบมือกับน้ำมะนาว ผงชูรส เมื่อชิมดูเห็นรสพอดีแล้วก็จัดใส่จานคลุกกับผักกาดขาวและหอมที่หั่น เป็นอันว่าใช้ได้

                ปลาทูนึ่งทรงเครื่อง            
                ปลาทูสดตัวใหญ่                  4                              ตัว
                ผักกาดขาวปลี                       1                              ต้น
                ยอดฟักทอง                          10                           ยอด
                ยอดแค                                   10                           ยอด
                ยอดสะเดา                             10                           ยอด
                หัวกะทิ                                  1                              ชาม
                ผักกาดเขียวปลี                     1                              ต้น
                ยอดตำลึง                               10                           ยอด
                ถั่วฝักยาว                               10                           ฝัก
                ดอกแค                                   10                           ดอก
                น้ำพริก                                  1                              ถ้วย
                น้ำซอสแม็กกี้ ปริมาณพอสมควร
                วิธีทำ
                เอาปลาทูทั้ง 4 ตัวมาแล่กลาง เลาะก้างถอดออกให้หมด แกะใบผักกาดขาวปลีวางบนจานเป็นการรองตัวปลา ใช้น้ำซอสแม็กกี้ทาตัวปลาให้ทั่ว แล้วนำตัวปลาลงวางทับบนใบผักกาดเขียว และใบผักกาดขาวคลุมตัวปลา นำยอดตำลึง ยอดฟักทอง ยอดแค ดอกแคและยอดสะเดาจัดแต่งในจานข้างๆ ตัวปลา ยกจานลงใส่หม้อนึ่งกระทำการนึ่งให้สุก ยกลง ราดปลาและผักด้วยหัวกะทิสดให้หมดชาม นำไปจิ้มกับน้ำพริกรับประทาน
               
                เนื้อผัดพริกมะเขือเทศ
                เครื่องปรุง
                เนื้อวัว                                                    1/4                         กก.
                กระเทียม                                                 2                          กลีบ
                พริกชี้ฟ้า                                               5-6                        เม็ด
                มะเขือเทศคั้นแล้ว                              4                            ช้อนโต๊ะ
                น้ำปลา น้ำส้ม น้ำมันพืช ผงชูรส
                วิธีทำ
                เอาน้ำมันใส่กระทะตั้งไฟพอร้อน เจียวกระเทียมพอหอม ใส่พริกลงผัดแล้วจึงใส่เนื้อที่หั่นแล้วลงผัดปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำส้ม ผงชูรสได้ที่แล้วจึงใส่มะเขือเทศลงผัดสุกแล้วยกลง
                แกงจืดดอกกะหล่ำ
                เครื่องปรุง
                ดอกกะหล่ำขนาดใหญ่       1              หัว
                เห็ดฟาง                                 1              ขีด
                เนื้อหมู                                  1              ถ้วยตวง
                เนื้อกุ้ง                                    1              ขีด
                ผักชี พริกไทยป่น ซีอิ๊วขาว ผงแม็กกี้ ผงชูรส
                วิธีทำ
                แกะดอกกะหล่ำผ่าเป็นชิ้นๆ ขนาดชิ้นละหนึ่งคำ สับเนื้อหมูกับกุ้งรวมกันให้ละเอียด ล้างเห็ดฟาง ยกหม้อขึ้นตั้งไฟ พอน้ำเดือดจึงใส่หมูกุ้งลงไป พอเดือดอีกครั้งจึงใส่ดอกกะหล่ำ เห็ดฟาง ผงแม็กกี้ลงไป ปิดฝาหม้อทิ้งไว้ให้เดือดอีกทีจึงเปิดฝาหม้อ ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาว ผงชูรส โรยด้วยพริกไทยและผักชี
               
                แกงจืดไส้กรอกไข่
                เครื่องปรุง
                ไข่ไก่หรือไช่เป็ด กุ้งนาง เกลือ พริกไทย น้ำต้มไก่ น้ำปลาอย่างดี น้ำมันหมู
                วิธีทำ
                ต่อยไข่ไก่ใส่ชามแบ่งไข่ขาวไว้บ้างตีให้เข้ากัน ยกกระทะตั้งไฟใส่น้ำมันหมูแต่น้อย พอกระทะร้อนดีเทไข่ลงกรอกไปมาให้บางแล้วแซะขึ้น ทำเช่นนี้จนหมดไข่ที่เตรียมไว้ ปอกกุ้งนางให้ละเอียด ใส่เกลือป่นกับพริกไทยพอสมควรกับไข่ดาวด้วย เอาไข่ดิบทาบนไข่เจียวจนทั่วแล้วม้วนให้ติดกันอย่างแฮ่กึ๊นใส่ลังถึงนึ่งให้สุกที และหั่นอย่าให้บางนัก ตักใส่ชามราดน้ำต้มไก่ ซึ่งเตรียมไว้กำลังเดือด ปรุงรสด้วยน้ำปลาอย่างดี โรยผักชี พริกไทยป่นอร่อยดีนัก
                คนเลือดกรุ๊ป AB กินแป้งและผักผลไม้ให้มาก
                เนื่องจากคนที่มีเลือดกรุ๊ป AB เป็นการผสมผสานระหว่างคนเลือดกรุ๊ป A และกรุ๊ป B ดังนั้นการกินอาหารจึงมีความคล้ายคลึงกับกรุ๊ปเลือดทั้งสองมาก คือควรเน้นผักผลไม้ให้มากแบบคนเลือดกรุ๊ป A ขณะที่กินโปรตีนให้น้อยหน่อยแต่กินแป้งขึ้นอีกนิด ซึ่งมิได้หมายความว่า ให้กินแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก แต่ควรเป็นแป้งที่มีไฟเบอร์ผสมในปริมาณจำกัด เพราะจะทำให้ขับถ่ายดีไม่สะสมเป็นไขมัน นอกจากนี้คนเลือดกรุ๊ป AB ยังต้องกินอาหารที่มีกรดสูงสักหน่อย เพราะปริมาณกรดในกระเพราะอาหารคุณต่ำ และเลือกกินอาหารที่ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้นด้วย
                โปรตีนจากสัตว์และโปรตีนจากพืช
                คุณควรกินเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย คอเคลเตอรอลต่ำ เช่น ปลา ไก่ และนมต่างๆ และเสริมด้วยโปรตีนจากพืช เช่น เต้าหู้แบบต่างๆ นม ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วดำ
                คาร์โบไฮเดรต
                การเลือกกินคาร์โบไฮเดรตที่มีคุณภาพสูง จะทำให้คุณได้ไฟเบอร์ในปริมาณที่เหมาะสม แต่มีไขมันต่ำ เช่น จมูกข้าวสาลี ข้าวกล้อง ข้าวโพด มันเทศ เผือก ธัญพืชต่ำ เช่น งาดำ เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ซึ่งคุณสามารถกินได้ตลอดช่วงของว่าง
                ผักผลไม้ต่างๆ
                ผักที่ควรสนใจ คือ ผักที่มีไฟเบอร์สูงอย่างผักใบต่างๆ เช่น ผักโขม ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักกวางตุ้ง ผักคะน้า ผักกาดขาว
                ส่วนผลไม้ที่ควรกินคือผลไม้เปรี้ยวนิดๆ ที่จะช่วยกระตุ้นการทำงานกระเพาะอาหารให้ย่อยได้ดีขึ้น เช่น สับปะรด ส้มรสอ่อนๆ มะม่วงดิบที่ไม่เปรี้ยวนัก องุ่น ส้มโอ มังคุด
                วันที่ 1
                มื้อเช้า : ไก่ต้มจิ้มซีอิ้วขาว กินกับแตงกวาสด
                ของว่าง : ขนมปังไส้งาดำ 1 ชิ้น
                มื้อเที่ยง : คะน้าผัดน้ำมันหอย 1 จาน ข้าวสวยร้อนๆ 2 ทัพพี
                ของว่าง : น้ำผักผลไม้ปั่น 1 แก้ว    
                                สับปะรด 1 ชิ้นเล็ก
                มื้อเย็น : ยำส้มโอ 1 จานเล็ก

                วันที่ 2
                มื้อเช้า : ข้าวต้มใสๆ กินกับข้าวต้มกุ๊ย เช่น ใบปอผัด หมูผัดหนำเลี้ยบ ยำกุ้งแห้ง
                ของว่าง : มังคุด 5-6 ผล
                                น้ำผักผลไม้ปั่น 1 แก้ว
                มื้อเที่ยง : บะหมี่หมูแดง 1 ชาม
                ของว่าง : องุ่น 10 ผล
                มื้อเย็น : ปลาต้มกินกับน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว ข้าวสวยร้อนๆ 1 ทัพพี

                วันที่ 3
                มื้อเช้า : ขนมปังปิ้งทาเนย 2 แผ่น
                                แอปเปิ้ล 1 ผล
                ของว่าง : น้ำส้มปัน 1 แก้ว
                มื้อเที่ยง : ข้าวหน้าไก่
                ของว่าง : นมพร่องมันเนย 1 แก้ว
                มื้อเย็น : แกงจืดวุ้นเส้นใส่สาหร่าย 1 ถ้วย
                                ผัดถั่วงอก 1 จานเล็ก
               
                วันที่ 4
                มื้อเช้า : ข้าวต้มกินกับปลาทอด ½ ตัว
                ของว่าง : ข้าวโพดต้ม ½ ฝัก
                มื้อเที่ยง : เต้าหู้ทอดผัดผักรวมมิตร 1 จาน
                                ข้าวสวยร้อนๆ 1-2 ทัพพี
                ของว่าง : ชาเย็น 1 แก้ว
                มื้อเย็น : ปลาอินทรีทอด กินกับข้าวสวยร้อนๆ 1 ทัพพี และผัดสดเคียง
               
                วันที่ 5
                มื้อเช้า : สลัดผลไม้ 1 จาน นมสด 1 แก้ว
                ของว่าง : พายสับปะรด 1 ชิ้นเล็ก
                มื้อเที่ยง : น้ำฝรั่งปั่น 1 แก้ว
                ของว่าง : เมล็ดทานตะวันแกะแล้ว 1 ช้อนโต๊ะ
                มื้อเย็น : ผักโขมผัดไก่ 1 จาน ข้าวกล้องร้อนๆ 2 ทัพพี

                วันที่ 6
                มื้อเช้า : ซุปมันเทศใส่แครอตและหัวหอม 1 ถ้วย
                ของว่าง : นมพร่องมันเนย 1 แก้ว
                มื้อเที่ยง : ยำเห็ดฟางใส่กุ้ง 1 จาน ข้าวสวยร้อนๆ 2 ทัพพี
                ของว่าง : น้ำขิงอุ่นๆ 1 ถ้วย
                มื้อเย็น : สลัดกุ้งต้ม 1 จาน

                วันที่ 7
                มื้อเช้า : ขนมปังโฮลวีตจิ้มนมข้นเล็กน้อย 2 แผ่น
                ของว่าง : น้ำแอปเปิ้ลปั่น 1 แก้ว
                                กล้วยน้ำว้า 1 ผล
                มื้อเที่ยง : ผักกาดขาวผัดหมูกรอบ 1 จาน
                                ข้าวสวยร้อนๆ 2 ทัพพี
                ของว่าง : น้ำชาเขียวแบบเย็น 1 แก้ว
                มื้อเย็น : ซุปมิโซะหรือซุปเต้าเจี้ยวแบบญี่ปุ่น ใส่เต้าหู้อ่อนสาหร่าย และต้นหอมซอย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น